
กาญจนบุรีคือจังหวัดที่ผสมความสงบ ธรรมชาติ และความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ใช้งบเพียง 30,000 บาทต่อเดือนก็อยู่ได้สบาย ท่ามกลางวิวแม่น้ำ ภูเขา และผู้คนเป็นมิตร เหมาะสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองที่ทั้งเงียบสงบและมีเสน่ห์
เชื่อไหมครับว่า ถ้าพูดถึงจังหวัด “กาญจนบุรี” นี่อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางแรกๆ ที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่นึกถึงในประเทศไทย โดยเฉพาะการมาอยู่ที่นี่ คนส่วนมากจะคิดถึงแค่เรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 สุสานต่างๆ และทางรถไฟสายมรณะ
แต่รู้ไหมว่ากาญจนบุรีเป็นอีกจังหวัดที่น่าสนใจในการมาใช้ชีวิต เพราะเป็นจังหวัดสงบๆ แต่ยังพอม่ความสะดวกสบายอยู่ และมีธรรมชาติที่สวยงามมาก แถมไม่ได้อยู่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่ด้วย
หากใครมีไลฟ์สไตล์ที่รักการผจญภัย และมองหาประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และค่าครองชีพที่แสนสบายกระเป๋า หากคำตอบคือ “ใช่” ผมขอแนะนำกาญจนบุรี จังหวัดที่ไม่ได้เป็นแค่ชื่อที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นสถานที่ที่พร้อมมอบความสุขสงบให้กับชีวิตของคุณ
ด้วยงบประมาณเพียง 50,000 บาทต่อเดือน คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ได้เรียนรู้วัฒนธรรม และได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่อบอุ่น เรามาดูกันว่ากาญจนบุรีมีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่บ้าง และคุณจะสามารถใช้ชีวิตในฝันที่นี่ได้อย่างไร
บทความนี้ใช้เวลาอ่านประมาณ 25 นาที ยังไม่มีเวลาอ่านตอนนี้เหรอ? ไม่เป็นไรเลย คุณสามารถส่งเวอร์ชันบทความแบบไม่มีโฆษณาไปที่อีเมลของคุณ แล้วค่อยอ่านทีหลังก็ได้!
คำชี้แจงเรื่องความโปร่งใส: บทความนี้อาจมีลิงก์ไปยังผลิตภัณฑ์หรือบริการจากพันธมิตรของเรา หากคุณคลิกลิงก์เหล่านั้น เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อย ซึ่งอาจมีผลต่อรูปแบบการจัดวางเนื้อหาบางส่วน อย่างไรก็ตาม โปรดวางใจว่า เราแนะนำเฉพาะสิ่งที่เราเชื่อว่ามีประโยชน์และเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณจริง ๆ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายโฆษณา ของเรา.
Contents
- เกี่ยวกับกาญจนบุรี
- คุณภาพชีวิต
- ค่าครองชีพ
- ค่าเช่า
- อาหาร
- การเดินทาง
- การเดินทางระยะไกล
- การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย
- ชีวิตทางสังคม
- กิจกรรมท่องเที่ยวธรรมชาติ
- ตลาดและแหล่งช้อปปิ้ง
- การศึกษาและชีวิตครอบครัว
- โอกาสในการทำงาน
- สภาพอากาศและคุณภาพอากาศ
- น้ำท่วม
- สถานบันเทิงยามค่ำคืน
- ย่านยอดนิยมสำหรับการอยู่อาศัย
- สถานตรวจคนเข้าเมือง
- วิถีชีวิตด้วยงบประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน
- สรุปข้อดีข้อเสียของกาญจนบุรี
- คุณควรมาใช้ชีวิตที่กาญจนบุรีหรือไม่?
เกี่ยวกับกาญจนบุรี
จังหวัดกาญจนบุรีตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียงประมาณ 130 กิโลเมตร หรือใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ทำให้เป็นจังหวัดที่สามารถเดินทางมาถึงได้ง่าย
ซึ่งในตอนนี้ ประเทศไทยกำลังทำทางด่วยใหม่สาย 81 เชื่อมขางกรุงเทพไปยังกาญจนะบุรี ที่จะทำให้การขับรถไปที่นั้นใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
นอกจากนั้น กาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่ตั้งแต่ภูเขาสูง ป่าไม้หนาทึบ มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ด้วยอุทยานแห่งชาติหลายแห่งที่มีน้ำตกสวยงาม ป่าไม้เขียวขจี ถ้ำและมีน้ำตกใหญ่ๆสวยงามทั่วทั้งจังหวัด
นอกจากนั้น กาญจนบุรีเป็นที่รู้จักกันดีในระดับโลกจาก “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายมรณะ ในสงครามโลกครั้งที่สอง เรื่องราวทางประวัติศาสตร์เหล่านี้ทำให้กาญจนบุรีมีเสน่ห์ลึกล้ำ และเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ แต่กาญจนบุรีไม่ได้มีแค่ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเท่านั้น สำหรับชาวต่างชาติที่กำลังมองหาสถานที่สำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ หรือมองหาบ้านหลังที่สอง ที่นี่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเงียบสงบ แต่ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตสมัยใหม่ครบครัน ผู้คนท้องถิ่นเป็นมิตรและยินดีต้อนรับชาวต่างชาติเสมอ ทำให้การปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตที่นี่เป็นเรื่องง่าย ด้วยค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล จะทำให้งบประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน สามารถสร้างความสุขและความสบายให้คุณได้อย่างแน่นอนครับ
คุณภาพชีวิต
เมื่อคุณก้าวเข้ามาในกาญจนบุรี สิ่งแรกที่คุณจะสัมผัสได้คือบรรยากาศที่แตกต่างจากเมืองใหญ่อย่างชัดเจน ที่นี่มีความเงียบสงบ อากาศบริสุทธิ์ และความเร่งรีบที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ยามเช้ายินเสียงนกร้องแทนเสียงแตรรถยนต์ เวลาช่วงเย็นก็มาเดินเล่นริมแม่น้ำแคว หรือนั่งจิบกาแฟในร้านกาแฟบรรยากาศสบาย ๆ ที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขา

แต่ในตัวเมืองกาญจนบุรีก็ยังพอมีห้าง ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แม้จะไม่ได้มีเยอะเหมือนอย่างเมืองใหญ่ๆอื่นๆ แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิต
การใช้ชีวิตที่นี่ทำให้คุณมีเวลามากขึ้นสำหรับตัวเอง สำหรับครอบครัว และสำหรับสิ่งที่สำคัญจริง ๆ คุณจะพบว่าตัวเองมีพลังงานมากขึ้น มีความเครียดน้อยลง และมีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ รอบตัวมากขึ้น ผู้คนที่นี่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ใจเย็น และพร้อมที่จะช่วยเหลือ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างชุมชนที่อบอุ่นและน่าอยู่
เชื่อว่าหากใครได้มาอยู่ที่กาญจนบุรี จะได้สัมผัสคุณภาพชีวิตที่ดีและแตกต่างไปจากเดิมเลยครับ
ค่าครองชีพ
ค่าครองชีพในกาญจนบุรีถูกกว่าจังหวัดใหญ่ๆอื่นๆค่อนข้างมาก ทำให้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้จังหวัดนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาวต่างชาติจำนวนมาก ด้วยงบประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน คุณจะพบว่าตัวเองสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ๆ มีคุณภาพกว่าที่คุณคิดไว้มาก! เรามาเจาะค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทกันครับ
- ค่าเช่าอพาร์ตเมนท์หรือคอนโด 1 ห้องนอน ทำเลดีหรือมีวิวแม่น้ำ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 7,000-15,000 บาทต่อเดือน
- ค่าอาหาร จะรวมทั้งอาหารท้องถิ่นและอาหารนานาชาติ อาทิ พิซซ่า บุฟเฟ่ต์ และร้านอาหารคาเฟ่ต่างๆ ถ้าอาหารไทยทั่วไปจะประมาณมือละ 50 บาท ถ้าอาหารนานาติก็ประมาณ 200-300 บาท
- ค่าเดินทาง หากใช้รถเช่าแทนมอเตอร์ไซค์ เช่น รถยนต์เล็กหรือรถยนต์ส่วนตัว ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 บาทต่อเดือน รวมค่าน้ำมัน
- ค่าสาธารณูปโภค ค่าไฟ น้ำ และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมกันอยู่ประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อเดือน
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นต่อเดือนจะอยู่แค่ ประมาณ 22,000 เท่านั้นเอง ก็สามารถใช้ชีวิตได้แบบสบายๆได้แล้ว แถมยังมีเงินเหลือไว้สำหรับค่าประกันสุขภาพ ท่องเที่ยว และกิจกรรมบันเทิงอื่นๆอีกมาก
ค่าเช่า
ค่าเช่าที่พักในกาญจนบุรีถือว่าถูกกว่าเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ หรือภูเก็ตอย่างเห็นได้ชัด และมีตัวเลือกที่หลากหลายให้คุณได้เลือกตามงบประมาณและความต้องการตามไลฟ์สไตล์เลยครับ แต่การหาที่พักที่นี่ อาจจะต้องหาในกลุ่ม facebook แทนจะง่ายกว่า
คอนโด/ อพาร์ตเมนท์
คุณสามารถหาคอนโด หรืออพาร์ตเมนต์แบบ 1 ห้องนอนที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน แอร์ อินเทอร์เน็ต และอาจมีฟิตเนสหรือสระว่ายน้ำให้ใช้ ในราคาประมาณ 7,000-10,000 บาทต่อเดือน และหากคุณเลือกที่พักที่อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปเล็กน้อย อาจได้ราคาที่ถูกลงไปอีก
แต่คอนโดในกาญจนบุรีจะมีไม่เยอะ ส่วนมากคนจะเช่าอพาร์ทเม้นต์ทั่วไปแทน แบบที่มีเฟอร์นิเจอร์ครบแต่สภาพยังดี ห้องดีๆ หน่อย ก็ 4,000-5,000 บาท ซึ่งราคาถูกมากๆ
ทาวน์เฮ้าส์
สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น หรือมีครอบครัวเล็ก ๆ การเช่าทาวน์เฮ้าส์หรือบ้านเดี่ยวขนาดเล็กประมาณ 2 ห้องนอนในบริเวณรอบนอกตัวเมือง หรือในหมู่บ้านจัดสรรที่ไม่ไกลจากแหล่งชุมชนมากนัก ราคาส่วนมากไม่เกิน 10,000 บาทต่อเดือน ที่พักประเภทนี้มักจะมีบริเวณรอบบ้านเล็กน้อย และให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า
บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่
หากมาอยู่ที่กาญจนบุรีจริงๆ ผมว่าอยู่บ้านเดี่ยวจะดีกว่า เพราะจะได้มีพื้นที่กว้างขวาง มีสวนให้ปลูกต้นไม้ และพื้นที่สำหรับในครอบครัวหลายคน ซึ่งการเช่าบ้านเดี่ยวที่นี่ราคาไม่สูงมาก สามารถหาได้ในราคา 10,000-15,000 บาทต่อเดือน แต่ว่าหากเป็นบ้านสภาพหรูๆหน่อย อาจมีราคาตั้งแต่ 15,000-25,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ซึ่งอาจจะไม่พองบหากคุณมีงบประมาณ 50,000 บาท
แต่ส่วนตัว ผมว่าแบบบ้านเดี่ยวธรรมดาๆก็เพียงพอแล้ว
อาหาร
แม้กาญจนบุรี อาจจะไม่ใช้จังหวัดที่คนอยู่เยอะมาก เรื่องอาหารการกินเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้กาญจนบุรีน่าอยู่ ด้วยอาหารไทยที่อร่อย หลากหลาย และราคาเป็นกันเอง นอกจากนั้น ยังพอมีอาหารต่างชาติให้เลือกด้วย โดยเฉพาะในโซนเมืองแถวแม่น้ำแถว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว สามารถเลือกกินได้สบายครับ
อาหารท้องถิ่น
ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและได้สัมผัสรสชาติไทยแท้ ๆ คุณสามารถหาอาหารจานเดียวอร่อย ๆ เช่น ผัดไทย ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว หรือแกงต่าง ๆ ได้ในราคาเพียง 40-80 บาทต่อมื้อ มีทั้งร้านตามตลาดสด ร้านอาหารข้างทาง หรือศูนย์อาหารท้องถิ่น
และกาญจนบุรี จะมีร้านอาหารริมแม่น้ำเยอะมากๆ บรรยากาศดีและราคาไม่แรง โดยรสชาติอาหารไทยที่นี่จะเป็นแบบอาหารไทยจริงๆ ซึ่งจะมีรสจัดหน่อย
ร้านอาหารนานาชาติ
กาญจนบุรีมีร้านอาหารนานาชาติที่หลากหลายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารฝรั่งเศส อิตาเลียน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี โดยราคาต่อมื้อประมาณ 150-300 บาท ตัวเลือกอาจจะมีไม่เยอะมากเหมือนกรุงเทพหรือพัทยา แต่ก็ยังพอมีทานให้หายคิดถึงบ้านได้บ้าง
หากใครชอบบรรยากาศ ยังมีร้านอาหารที่อยู่ริมแม่น้ำแคว เช่น ME Kitchen & Bar และ Loft Restaurant & Bar ก็มีเมนูอาหารนานาชาติรสชาติดีในบรรยากาศโรแมนติกริมแม่น้ำได้เช่นกัน
คาเฟ่
กาญจนบุรีมีคาเฟ่สวย ๆ บรรยากาศดีมากมาย เหมาะสำหรับการนั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือพักผ่อน กาแฟหนึ่งแก้วจะอยู่ที่ประมาณ 50-100 บาท
ซูเปอร์มาร์เก็ต
เวลาอยู่ที่กาญจนบุรี วัตถถุดิบส่วนมากสามารถหาซื้อได้จากตามตลาดสด ที่มีทั่วทั้งจังหวัดเลย โดยเฉพาะพวกผักและผลไม้ที่ชาวบ้านแถวนั้นจะปลูกกันเอง หรือจะซื้อจากพวก เช่น Big C หรือ Lotus’s Makro มาทำอาหารเองที่บ้านก็ได้
ค่าใช้จ่ายรายเดือนสำหรับการซื้อของจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-4,000 บาท ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคของคุณ ส่วนใครที่มองหาวัตถุดิบนำเข้ามาทำกินเอง เช่น ทำอาหารญี่ปุ่น มาได้ที่ร้าน Besuto MK จำหน่ายวัตถุดิบซูชิ อาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะ หรือมาที่ ร้าน ชินเซ็นโฟรเซ่นฟู้ด มีของสด/ เนื้อสัตว์แช่แข็ง / วัตถุดิบญี่ปุ่น (ปลาสด, แซลมอน, ทูน่า, โชยุ ฯลฯ) มีให้เลือกไปทำได้หลายเมนูเลยครับ
การเดินทาง
การเดินทางในกาญจนบุรีค่อนข้างสะดวกและมีตัวเลือกหลากหลาย เนื่องจากการจราจรที่ไม่ติดขัดมากนัก แต่ว่ารถสาธารณะอาจจะไม่ได้เยอะเท่าเมืองใหญ่อื่นๆ
รถจักรยานยนต์
หากมาอยู่ที่กาญจนบุรี ในช่วงแรก ผมแนะนำให้เช่ารถจักรยายนต์ขี่ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมที่สุดและสะดวกที่สุดในการเดินทางรอบเมือง ค่าเช่ารถจักรยานยนต์รายเดือนอยู่ที่ประมาณ 2,000-4,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและสภาพรถ) และค่าน้ำมันประมาณ 500-1,000 บาทต่อเดือน หรืออาจจะซื้อมอเตอร์ไซค์ดีๆสักคัน ไว้ขี่เที่ยวก็ได้ เพราะกาญจนบุรีมีที่เที่ยวเยอะมาก เหมาะกับสายขี่มอเตอร์ไซค์
คุณสามารถเช่าได้ง่ายจากร้านเช่ารถในตัวเมือง
ข้อควรระวัง: การขับขี่รถจักรยานยนต์ในกาญจนบุรีอาจจะง่าย ขับได้สบาย แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน คอยสวมหมวกกันน็อคเสมอ และเข้าใจกฎจราจรด้วย
แอปเรียกรถ/รถแท็กซี่
แอปเรียกรถที่กาญจนบุรียังไม่แพร่หลายเท่าในกรุงเทพฯ คุณอาจต้องใช้บริการแอปเรียกรถท้องถิ่น หรือโบกแท็กซี่/สามล้อเครื่อง ซึ่งจะมีจำนวนจำกัด หรือส่วนมากจะอยู่แถวตัวเมืองเท่านั้น
รถสองแถว
เป็นระบบขนส่งสาธารณะหลักที่ราคาประหยัด วิ่งตามเส้นทางหลักต่าง ๆ รอบเมือง ค่าโดยสารประมาณ 10-30 บาทต่อเที่ยว ในการขึ้นตอนแรกๆ ให้ถามชาวบ้านแถวนั้นดูว่าขึ้นยังไงและวิ่งไปไหน
รถยนต์ส่วนตัว
หากคุณวางแผนจะอยู่ที่กาญจนบุรีเป็นระยะเวลานาน การซื้อรถยนต์มือสองอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว และปลอดภัย เพราะเส้นทางนอกเมืองที่กาญจนบุรี รถขับกันค่อนข้างเร็ว และมีทางเป็นภูเขาค่อนข้างเยอะ
แต่แน่นอนว่า จะมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและค่าน้ำมันที่สูงขึ้น รถยนต์มือสอง ราว ๆ 300,000 บาทต่อคัน
การเดินเท้า/จักรยาน
เหมาะสำหรับระยะทางใกล้ๆ ในตัวเมือง การเดินเท้าหรือปั่นจักรยานเป็นวิธีที่ดีในการสำรวจเมืองและออกกำลังกายไปในตัว
การเดินทางระยะไกล
การเดินทางระยะไกลที่กาญจนบุรีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีคือ หากคุณมีรถส่วนตัว สามารถขับมาจากกรุงเทพได้ง่ายมาก เพราะมีทางด่วนตัดใหม่ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง และมีรถตู้และรถบัสมากาญจนบุรีค่อนข้างเยอะ รวมถึงนั่งรถไฟได้ด้วย
ข้อเสียคือที่นี่ไม่มีสนามบิน ฉะนั้น การจะบินไปจังหวัดอื่นหรือต่างประเทศ ต้องไปขึ้นเครื่องที่กรุงเทพ และรถสาธารณะจากสนามบินก็ไม่ได้สะดวกเท่าเมืองอย่างพัทยา หัวหิน
รถบัสประจำทาง
รถโดยสารประจำทางสาย 8203 (รถบัสแดง) เป็นหนึ่งในเส้นทางยอดนิยมที่วิ่งระหว่างกาญจนบุรีและกรุงเทพฯ โดยมีตารางเวลาเดินรถทุกชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเย็น สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าออนไลน์ได้
สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถโดยสารไปยังหลายจุดหมายปลายทางในจังหวัดและต่างจังหวัด เช่น กรุงเทพฯ, ราชบุรี, นครปฐม และอำเภอใกล้เคียง
รถไฟ
ในตัวเมืองมีสถานีรถไฟกาญจนบุรีให้บริการ ซึ่งสามารถเดินทางไปยังสถานีต่าง ๆ ในเขตจังหวัด หรือเชื่อมต่อไปยังเส้นทางรถไฟสายหลักของไทย รวมถึงการเดินทางไปยังปลายทางที่สำคัญ เช่น กรุงเทพฯ และพัทยา

การดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย
กาญจนบุรีมีสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานหลายแห่ง ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีในกรณีที่เจ็บป่วยหรือต้องการคำปรึกษาทางการแพทย์ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งรัฐบาลและเอกชน แต่ส่วนมากโรงพยาบาลที่นี่จะเหมาะสำหรับการรักษาทั่วไป
หากเป็นเรื่องโรคร้ายแรงต่างๆ ที่ต้องมีการผ่าตัดใหญ่หรือพวกมะเร็ง คนส่วนมากนิยมนั่งรถไปรักษาที่กรุงเทพมากกว่า
โรงพยาบาล
โรงพยาบาลรัฐ คือ โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ประจำจังหวัด มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขา และค่ารักษาพยาบาลราคาประหยัด แต่ก็อาจมีเวลารอคิวนานกว่า
โรงพยาบาลเอกชน คือ โรงพยาบาลธนกาญจน์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ให้บริการรวดเร็ว สะดวกสบายกว่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และบุคลากรที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่า แต่ค่ารักษาพยาบาลก็จะสูงกว่า
คลินิก มีคลินิกทั่วไปและคลินิกเฉพาะทาง (เช่น คลินิกทันตกรรม คลินิกผิวหนัง) กระจายอยู่ทั่วเมือง เหมาะสำหรับการรักษาอาการเล็กน้อยหรือการตรวจสุขภาพประจำวัน
ร้านขายยา หาซื้อยาและเวชภัณฑ์ได้ง่าย เป็นร้านยาใกล้บ้าน มีเภสัชกรคอยให้คำแนะนำ แต่ส่วนมากอาจจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ยกเว้นร้านยาแถวสะพานแม่น้ำแถว หรือแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะๆ
การออกกำลังกาย
กาญจนบุรีเป็นเมืองที่เอื้อต่อการรักษาสุขภาพและการออกกำลังกายอย่างมาก เพราะมีฟิตเนสและยิมหลายแห่งในตัวเมืองที่มีอุปกรณ์ครบครัน ค่าสมาชิกรายเดือนไม่แพง เช่น DNA Gym Kanchanaburi เดือนละ 1,200 บาท , SC Fitness Kanchanaburi เดือนละ 900 บาท และยังมีคลาสออกกำลังกายให้เลือกหลากหลาย
นอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะสำหรับวิ่งจ็อกกิ้ง ปั่นจักรยาน และออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสะดวกสบาย เช่น การเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ การปั่นจักรยานเสือภูเขา การพายเรือคายัคในแม่น้ำแควครับ
ชีวิตทางสังคม
ชาวต่างชาติที่มาอยู่อาศัยในกาญจนบุรี มักจะไปพบปะและสร้างสังคมกันผ่านหลายช่องทางหลัก ๆ เช่น งานเทศกาลท้องถิ่นและกิจกรรมชุมชนที่มีการจัดอย่างสม่ำเสมอในตัวเมืองและแหล่งท่องเที่ยว อย่างงานตลาดนัดกลางคืน งานแสดงศิลปวัฒนธรรม และงานส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ คาเฟ่ ร้านอาหาร และบาร์ที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติก็เป็นสถานที่พบปะพูดคุยกันได้ดี
ซึ่งส่วนมากคนที่มาอยู่ที่นี่ จะเป็นแนวๆคนที่ชอบธรรมชาติ ใช้ชีวิตช้าๆแบบเรียบง่าย
ทั้งนี้ยังมีช่องทางออนไลน์ เช่น กลุ่มเฟซบุ๊กของชาวต่างชาติในกาญจนบุรี ที่ช่วยให้สมาชิกใหม่สามารถติดต่อและเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย
กิจกรรมท่องเที่ยวธรรมชาติ
กาญจนบุรีเป็นที่รู้จักจากธรรมชาติที่สวยงาม และมีกิจกรรมมากมายให้คุณได้สำรวจ เช่น น้ำตกเอราวัณและน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ซึ่งเป็นน้ำตกหินปูนเจ็ดชั้นที่มีแอ่งน้ำสีเขียวมรกต เหมาะสำหรับว่ายน้ำและพักผ่อนอย่างเต็มที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และเฉลิมรัตนโกสินทร์เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการเดินป่า ตั้งแคมป์ และสัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์

สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์เป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่มีทัศนียภาพงดงามมาก เหมาะกับการล่องแพและกิจกรรมแพคเกจล่องแพค้างคืนซึ่งให้คุณได้สัมผัสกับความสงบของธรรมชาติอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ยังมีถ้ำกระแซ ที่เป็นถ้ำประวัติศาสตร์สวยงามในเส้นทางรถไฟสายมรณะ ส่วนบ่อน้ำพุร้อนหินดาดช่วยให้คุณผ่อนคลายร่างกายด้วยสรรพคุณบำบัด และอย่าลืมล่องเรือแม่น้ำแคว ที่คุณจะได้ชมวิวทิวทัศน์ริมสองฝั่งแม่น้ำพร้อมเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของพื้นที่อย่างใกล้ชิดครับ
ตลาดและแหล่งช้อปปิ้ง
กาญจนบุรีเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยแหล่งช็อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่ตลาดท้องถิ่นอย่างตลาดสด และตลาดโต้รุ่งในตัวเมือง ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารอร่อย ของฝาก และสินค้าหลากหลายที่ราคาประหยัด ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าใหญ่ เช่น โรบินสัน และเทสโก้ โลตัส ที่มีสินค้าแบรนด์ดัง และร้านค้าทุกประเภทที่ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคน
นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกมากมายบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นจุดเช็คอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอีกด้วย
การศึกษาและชีวิตครอบครัว
สำหรับชาวต่างชาติที่มีครอบครัวหรือวางแผนจะมาพร้อมกับลูกหลาน กาญจนบุรีก็มีตัวเลือกด้านการศึกษาและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิต
การศึกษา
หากต้องการส่งลูกเรียนในโรงเรียนนานาชาติหรือโรงเรียนสองภาษา ตัวเลือกในจังหวัดอาจยังมีจำกัดเมื่อเทียบกับเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ แต่ก็มีโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนที่เปิดสอนหลักสูตรภาษาอังกฤษผสมผสานกับหลักสูตรไทยอยู่บ้าง เช่น โรงเรียน ดรุณากาญจนบุรี (Daruna Kanchanaburi) ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีหลักสูตรภาษาอังกฤษควบคู่กับหลักสูตรไทย และยังมีทางเลือกอื่นๆ ผู้ปกครองหลายคนเลือกให้ลูกเรียนโรงเรียนในกาญจนบุรีภายในระยะที่รับได้
แล้วไปเรียนต่อที่โรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพฯ หรือ นครปฐม สำหรับชั้นมัธยมปลาย โดยสามารถจัดเวลาช่วงปิดเทอมให้ลูกใช้ชีวิตและเรียนรู้ในกาญจนบุรีด้วย
ชีวิตครอบครัว
กาญจนบุรีเป็นเมืองที่ปลอดภัย มีอัตราอาชญากรรมต่ำ และมีสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการเลี้ยงดูบุตรหลาน เด็ก ๆ จะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีพื้นที่สำหรับการเรียนรู้และเล่นสนุก พัฒนาการทางสังคมและร่างกายที่ดีขึ้น
ชุมชนค่อนข้างอบอุ่นและปลอดภัย เหมาะสำหรับคนที่ชอบชีวิตเรียบง่าย มีเวลาให้กับครอบครัว ความสะดวกสบายไม่เท่าเมืองใหญ่แต่ได้ความสงบสุขแทน เหมาะกับการตั้งรกรากแบบครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและใกล้ชิดธรรมชาติมากเลยครับ
โอกาสในการทำงาน
แม้กาญจนบุรีจะไม่ใช่ศูนย์กลางธุรกิจ แต่ก็ยังมีโอกาสในการทำงานสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น ครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นที่ต้องการอย่างมากในโรงเรียนและสถาบันสอนภาษาอังกฤษทั่วจังหวัด งานออนไลน์/ ฟรีแลนซ์
หากคุณมีความสามารถพิเศษ เช่น การเขียน การออกแบบ การตลาดดิจิทัล หรือการเขียนโปรแกรม คุณสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างอิสระ หรือธุรกิจท่องเที่ยว หากคุณมีความรู้ด้านการท่องเที่ยวและรักในกาญจนบุรี คุณอาจพิจารณาเปิดธุรกิจขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น โฮมสเตย์ บริการนำเที่ยว หรือร้านอาหารนานาชาติ
สภาพอากาศและคุณภาพอากาศ
กาญจนบุรีมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้นตามแบบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี 3 ฤดูหลักที่ชัดเจน คือ ฤดูร้อนในช่วงมีนาคมถึงพฤษภาคมที่อากาศร้อนจัด อุณหภูมิอาจสูงถึง 35-40 องศาเซลเซียส, ฤดูฝนระหว่างมิถุนายนถึงตุลาคมที่มีฝนตกชุกโดยเฉพาะในเดือนกันยายนและตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ธรรมชาติสีเขียวสดชื่นมากที่สุด และฤดูหนาวที่อากาศเย็นสบายระหว่างพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะในเดือนธันวาคมและมกราคม อุณหภูมิช่วงกลางคืนจะลดลงถึง 20 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่านั้นในพื้นที่ภูเขา
สิ่งที่โดดเด่นและน่าประทับใจคือคุณภาพอากาศของกาญจนบุรีที่ดีมาก สภาพอากาศบริสุทธิ์ ปราศจากมลพิษรุนแรงเหมือนในเมืองใหญ่ ทำให้สามารถใช้ชีวิตกลางแจ้งได้อย่างสบายใจและได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากเลยครับ
แต่ว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเมษายน บางวันอาจจะมีฝุ่น pm2.5 เยอะที่มาจากการเผาพื้นที่เกษตรกรรมต่างๆ ผมรู้จักคนที่มีรีสอร์ทที่อยู่อำเภอทองผาภูมิที่กาญจนบุรี เค้าเคยถ่ายรูปให้ดูช่วงนั้น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยฝุ่นและค่า AQI สูงเกิน 200 เลยทีเดียว
น้ำท่วม
เนื่องจากกาญจนบุรีมีแม่น้ำหลายสายและพื้นที่บางส่วนเป็นที่ลุ่มต่ำ การเกิดน้ำท่วมเป็นสิ่งที่ควรตระหนัก โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่ฝนตกหนักเป็นพิเศษ พื้นที่ที่อยู่ใกล้แม่น้ำหรือลำคลองบางแห่งอาจได้รับผลกระทบ การเลือกที่พักจึงควรปรึกษาคนท้องถิ่นหรือผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์เกี่ยวกับประวัติการเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ที่คุณสนใจก่อนตัดสินใจเช่าหรือซื้อ
โดยส่วนมากจะมีแค่พื้นที่แถวแม่น้ำแควเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ท่วมบ่อยอะไรมาก
สถานบันเทิงยามค่ำคืน
กาญจนบุรีอาจไม่ใช่เมืองปาร์ตี้ แต่ก็มีตัวเลือกสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่เหมาะสำหรับผ่อนคลายและสังสรรค์อย่างดี เช่น ร้านบาร์ลับริมแม่น้ำแควที่บรรยากาศดี อาหารอร่อย มีดนตรีสดเล่นให้ฟัง เช่น บาร์ลับกาญจนบุรี ที่เปิดจนถึงเที่ยงคืน หรือร้าน Loft Restaurant & Bar ร้านอาหารกึ่งบาร์ริมแม่น้ำแควที่มีดนตรีสดและวิวพระอาทิตย์ตกดินสุดโรแมนติก
นอกจากนี้ยังมีผับและบาร์เล็ก ๆ ในย่านใจกลางเมือง รวมถึงคาเฟ่บางแห่งที่เปิดจนดึก เช่น ต้องกาญ คาเฟ่ สำหรับคนที่ชอบบรรยากาศชิล ๆ นั่งพูดคุยหรือทำงานไปพร้อมกันได้ เรียกว่าสถานบันเทิงยามค่ำคืนในกาญจนบุรีมีครบจบในบรรยากาศสบาย ๆ และกันเอง
แต่ร้านพวกนี้จะอยู่แถวตัวเมืองเท่านั้น หากอยู่โซนอื่น ตอนกลางคืนจะค่อนข้างเงียบ และได้ยินเสียงนกเสียงแมลงร้องไปทั่ว
ย่านยอดนิยมสำหรับการอยู่อาศัย
กาญจนบุรีมีหลายย่านที่น่าสนใจสำหรับการอยู่อาศัย แต่ละย่านก็มีเอกลักษณ์และข้อดีที่แตกต่างกันครับ
ใจกลางเมือง/รอบเมือง (อำเภอเมืองกาญจนบุรี)
ใจกลางเมืองเป็นย่านสะดวกสบายที่สุด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด โรงพยาบาล ร้านอาหาร คาเฟ่ สถานที่ราชการ การเดินทางสะดวก เหมาะสำหรับ ผู้ที่ชอบความสะดวกสบาย เข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้ง่าย หรือผู้ที่ทำงานในตัวเมือง เช่น ย่านถนนแสงชูโต, ถนนแม่น้ำแคว
ซึ่งเป็นย่านที่ผมแนะนำที่สุดสำหรับการมาอยู่ที่นี่

นอกตัวเมืองเล็กน้อย
ย่านนี้จะสงบขึ้นมาอีกนิด อากาศดีกว่า แต่ยังคงเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในตัวเมืองได้ง่าย (ใช้เวลาเดินทางไม่นาน) ค่าเช่าที่พักอาจถูกลงเล็กน้อย เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการความเงียบสงบมากขึ้น แต่ยังไม่ต้องการตัดขาดจากความเจริญ เช่น ย่านท่ามะกา (ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำแคว), ท่าม่วง (อยู่ห่างจากตัวเมืองเล็กน้อย)
พื้นที่ชนบท/รอบนอกไกล
พื้นที่ชนบทของกาญจนบุรีมีเงียบสงบอย่างแท้จริง ใกล้ชิดธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายอย่างสิ้นเชิง ข้อเสีย การเดินทางไม่สะดวกเท่าในเมือง อาจต้องมีรถยนต์ส่วนตัว สิ่งอำนวยความสะดวกมีจำกัด เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ ต้องการความสงบ ต้องการพื้นที่กว้างขวาง หรือผู้ที่ทำงานทางไกล/ฟรีแลนซ์เช่น อำเภอไทรโยค, อำเภอทองผาภูมิ (เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใกล้ชิดอุทยานแห่งชาติ)
แต่นอนนอนว่า หากเราไม่ได้รู้จักใครเลย อาจจะเป็นเรื่องยากที่อาศัยในพื้นที่แถวนี้
สถานตรวจคนเข้าเมือง
มีอีกสิ่งที่ผมชอบสำหรับภาญจนบุรีคือสถานตรวจคนเข้าเมืองที่นี่คนค่อนข้างน้อย ทำให้การไปทำเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับวีซ่าทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องรอคิวนานเหมือนที่กรุงเทพ อีกทั้ง ตม ยังอยู่แถวตัวเมืองทำให้เดินทางไปได้สะดวกมากๆ
วิถีชีวิตด้วยงบประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน
เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น นี่คือตัวอย่างการจัดสรรงบประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตในกาญจนบุรีได้อย่างมีความสุขและไม่เครียดครับ
- ค่าเช่า (คอนโด/อพาร์ตเมนต์/บ้านหลังเล็กๆ) 8,000 บาท
- ค่าสาธารณูปโภค (ไฟฟ้า, น้ำ, อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง) 1,500 บาท
- ค่าเดินทาง (เช่ามอเตอร์ไซค์ + ค่าน้ำมัน) 3,500 บาท
- ค่าอาหาร (อาหารท้องถิ่นเป็นหลัก, ทำอาหารเองบ้าง, ร้านอาหารนานาชาติ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์) 10,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว/บันเทิง/ท่องเที่ยว (ค่ากาแฟ, สังสรรค์เล็กน้อย, กิจกรรม, ซื้อของใช้ส่วนตัว) 7,000 บาท
- ประกันสุขภาพแบบคุ้มครองดี 6,000 บาาท
- รวมงบประมาณ 36,000 บาท
จะเห็นได้ว่าด้วยงบประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน คุณไม่เพียงแต่มีชีวิตที่สบาย มีแผนประกันสุขภาพที่ดี แต่ยังมีเงินเหลือเก็บอีก 14,000 บาทต่อเดือนเพื่อการท่องเที่ยวและกิจกรรมที่คุณชื่นชอบได้อย่างเต็มที่ ทำให้ชีวิตที่กาญจนบุรีมีทั้งคุณภาพ ความสุข และความมั่นคงเลยทีเดียวครับ
สรุปข้อดีข้อเสียของกาญจนบุรี
มาดูสรุปกันว่า ข้อดีข้อเสียหลักๆของจังหวัดกาญจนบุรีมีอะไรบ้าง
ข้อดี
- ค่าครองชีพถูกมาก
- อาหารอร่อยๆมีให้เลือกเยอะ
- ไม่ไกลจากกรุงเทพเท่าไหร่
- อากาศดีเกือบตลอดทั้งปี
- มีธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์มาก ทั้งน้ำ ป่า ภูเขา ถ้ำ
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอในการใช้ชีวิต
ข้อเสีย
- คุณจำเป็นต้องพูดภาษาไทยได้บ้าง เพราะคนที่นี่ส่วนมากจะยังคงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้
- การเดินทางต้องมีรถส่วนตัวถึงจะสะดวก
- อยู่ไกลสนามบิน ทำให้ไปต่างประเทศได้จาก
- การแพทย์ไม่ได้ดีเท่าเมืองใหญ่ๆ
- กิจกรรมนอกจากทางธรรมชาติแล้ว ไม่ได้มีอะไรให้ทำเยอะมาก
คุณควรมาใช้ชีวิตที่กาญจนบุรีหรือไม่?
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาสิ่งเหล่านี้ คุณภาพชีวิตที่ดี อากาศบริสุทธิ์ วิถีชีวิตที่ไม่เร่งรีบ ความสงบสุขที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ มีธรรมชาติอันงดงามที่โอบล้อม ภูเขา แม่น้ำ น้ำตก ป่าไม้ ที่พร้อมให้คุณได้สำรวจและผ่อนคลาย มีค่าครองชีพที่สมเหตุสมผล ทำให้เงินของคุณมีมูลค่ามากขึ้น และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ มีวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลและผู้คนที่อบอุ่น เป็นมิตร มีกิจกรรมกลางแจ้งมากมายและประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา กาญจนบุรี คือ จุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
ลองมาสัมผัสด้วยตัวเองดูสิ แล้วคุณจะหลงรักกาญจนบุรี และอาจจะพบว่าที่นี่คือ “บ้าน” หลังใหม่ที่คุณตามหามาตลอดก็เป็นได้นะครับ