
รู้หรือไม่ว่าเราสามารถขอสัญชาติใหม่ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับพลเมืองประเทศนั้น ทำงานที่นั้น หรือไปอาศัยในประเทศนั้นๆเป็นระยะเวลานาาน
หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศในกลุ่มสมาชิกประเทศยุโรป มีโปรแกรมถิ่นที่อยู่แบบพิเศษสำหรับนักลงทุนโดยเฉพาะ บางประเทศให้สัญชาติเราทันทีหลังจากที่รัฐบาลอนุมัติใบสมัคร ในบางประเทศ เราต้องถือวีซ่าลงทุนสักระยะหนึ่งก่อน ถึงจะมีสิทธิ์สมัครเป็นพลเมืองในประเทศนั้นได้ โดยที่ไม่ต้องทิ้งสัญชาติไทย
ในบทความนี้ เรามาดูกันดีกว่า โปรแกรมการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนคืออะไร รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ขั้นตอนที่เราจำเป็นต้องรู้ รวมถึงประเทศแนะนำสำหรับการสมัครโปรแกรมแบบนี้สำหรับกลุ่มประเทศยุโรป
หากว่าท่านอ่านบทความนี้แล้วยังไม่แน่ใจว่าจะสมัครโปรแกรมของประเทศไหนดี หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ท่านสามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างนี้ได้ เพื่อจะติดต่อขอรับคำปรึกษากับบริษัทที่เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความนี้ใช้เวลาอ่านประมาณ 23 นาที ยังไม่มีเวลาอ่านตอนนี้เหรอ? ไม่เป็นไรเลย คุณสามารถส่งเวอร์ชันบทความแบบไม่มีโฆษณาไปที่อีเมลของคุณ แล้วค่อยอ่านทีหลังก็ได้!
คำชี้แจงเรื่องความโปร่งใส: บทความนี้อาจมีลิงก์ไปยังผลิตภัณฑ์หรือบริการจากพันธมิตรของเรา หากคุณคลิกลิงก์เหล่านั้น เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อย ซึ่งอาจมีผลต่อรูปแบบการจัดวางเนื้อหาบางส่วน อย่างไรก็ตาม โปรดวางใจว่า เราแนะนำเฉพาะสิ่งที่เราเชื่อว่ามีประโยชน์และเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณจริง ๆ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายโฆษณา ของเรา.
Contents
สิทธิประโยชน์
การถือสัญชาติของกลุ่มประเทศยุโรปให้สิทธิประโยชน์กับเราอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในการทำงานและอยู่อาศัยในประเทศนั้นๆตลอดชีพ การเดินทางไปกลุ่มประเทศยุโรปด้วยกันโดยไม่ต้องขอวีซ่า การเข้าถึงระบบสาธารณสุข
เรามาดูกันดีกว่าว่าหากเราได้สัญชาติในกลุ่มประเทศยุโรป เราจะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
สิทธิในการอาศัย ทำงาน และทำธุรกิจ
สิทธิประโยชน์อย่างแรกเมื่อเราได้สัญชาติแล้ว เราสามารถอาศัย ทำงาน ลงทุน ทำธุรกิจ รวมถึงสิทธิในการซื้อขายที่ดินต่างๆ ในประเทศที่เราขอสัญชาติได้
เรียกได้ว่าหลังจากได้สัญชาติแล้ว เราเปรียบเสมือนเป็นพลเมืองของคนในประเทศนั้นเลยทีเดียว
สิทธิในการเดินทางในกลุ่มประเทศยุโรปและประเทศอื่นๆ
นอกจากนั้น เราสามารถทำเรื่องถือหนังสือเดินทางของประเทศนั้นๆได้ ซึ่งจะทำให้เราเดินทางไปกลุ่มประเทศยุโรปได้เป็นระยะเวลา 90 วันต่อ 180 วัน โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า
หากว่าเราต้องการที่จะอยู่นานกว่านั้น เราสามารถที่จะยื่นเรื่องเพื่อขอพำนักในประเทศในกลุ่มสมาชิกยุโรปได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่โชว์หลักฐานทางการเงินและประกันสุขภาพ
นอกจากนั้นแล้ว หนังสือเดินทางกลุ่มประเทศยุโรป มักจะมีข้อตกลงพิเศษกับประเทศอื่นทั่วโลก และทำให้เราเดินทางท่องเที่ยวไปประเทศนั้นๆได้ โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า
อยากเช่น หากว่าเราถือหนังสือเดินทางของประเทศโปรตุเกส ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในหนังสือเดินทางที่ดีที่สุดในโลก เราสามารถเดินทางไปได้ถึง 192 ประเทศทั่วโลก โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า
สิทธิในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข
หลังจากที่เราได้สัญชาติเรียบร้อยแล้ว เราจะมีสิทธิในการเข้าถึงระบบสาธารณสุขของประเทศนั้นๆได้อย่างเต็มที่ รวมถึงระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ
โดยหลายประเทศในกลุ่มประเทศยุโรปนั้น มีชื่อเสียงในด้านระบบนี้เป็นอย่างมาก อย่างเช่นประเทศสเปน ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีระบบประกันสุขภาพที่ดีที่สุดในโลก
อีกทั้งหลายประเทศในกลุ่มประเทศยุโรปนั้นมีชื่อเสียงในด้านการแพทย์และมีโรงพยาบาลชั้นนำติดอันดับโลกเป็นจำนวนมาก
หลังจากที่เราได้รับสัญชาติในกลุ่มประเทศสมาชิกยุโรปแล้ว เราสามารถรับการรักษาจากโรงพยาบาลเหล่าได้อย่างรวดเร็ว
สิทธิในการส่งต่อสัญชาติ
หลังจากที่เราได้รับสัญชาติเรียบร้อยแล้ว ลูกของเราที่ยังไม่เกิดจะได้รับสัญชาติใหม่โดยอัติโนมัติ หลังจากที่ลืมตาเกิดขึ้นมาอยู่บนโลก
ในส่วนของครอบครัวที่เรามีอยู่ในปัจจุบันนั้น เรามีสิทธิที่จะขอสัญชาติผ่านการลงทุนได้ ซึ่งแต่ละประเทศจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกัน แต่โดยส่วนมากนั้น จะเป็นการเสียค่าธรรมเนียมในการสมัครเพิ่มให้กับประเทศนั้นๆ
สิทธิอื่นๆ
นอกเหนือจากสิทธิที่กล่าวไปในด้านต้นแล้ว ยังมีสิทธิอื่นๆที่เราจะได้รับ หลังจากที่เราได้รับสัญชาติเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการซื้อที่ดิน สิทธิในการลงทุน สิทธิในการได้รับการปกป้องด้านสิทธิเสรีภาพจากการเป็นพลเมืองกลุ่มประเทศยุโรป รวมถึงสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้งอีกด้วย
เราจะได้สัญชาติในกลุ่มประเทศยุโรปได้อย่างไร
ในปกติแล้ว ในการที่เราจะสามารถได้สัญชาติในกลุ่มประเทศยุโรปนั้น มีได้ด้วยวิธีหลักๆ 3 วิธีคือ
- สามารถสืบได้ว่าเรามีบรรพบุรุษที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศนั้น
- ขอถิ่นที่อยู่ถาวรก่อนที่จะยื่นเรื่องขอสัญชาติ
- ผ่านโปรแกรมขอสัญชาติด้านการลงทุน
ในบางครั้ง กลุ่มประเทศยุโรปอาจจะให้สัญชาติเป็นกรณีพิเศษ เช่น จากการทำความดีให้ประเทศนั้นๆ
สืบได้ว่าเรามีบรรพบุรุษที่สืบเชื้อสายมาจากประเทศนั้น
ถ้าเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าบรรพบุรุษของเราสืบเชื้อสายมาจากประเทศนั้นๆ เราอาจจะมีสิทธิ์ในการขอสัญชาติประเทศนั้นๆได้
โดยวิธีนี้ ภาษาอังกฤษจะเรียกกันว่า By Blood หรือ By Soil
เช่น ถ้าปู่ของเรามีสัญชาติสเปน เราสามารถไปทำเรื่องกับสถานทูตสเปนหรือสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขอสัญชาติได้ โดยวิธีนี้จะได้เป็นวิธีที่ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด โดยค่าดำเนินการที่เราต้องเสียให้กับทางรัฐเป็นจำนวนไม่กี่พันบาท
ขอถิ่นที่อยู่ถาวรก่อนที่จะยื่นเรื่องขอสัญชาติ (Naturalization)
วิธีที่สอง คือการที่เราจะต้องอยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นระยะเวลาหลายปี ก่อนที่เราจะสามารถทำเรื่องขอถิ่นที่อยู่ถาวร (Permanent Resident) ก่อนที่จะทำเรื่องสมัครสัญชาติต่อไป
โดยวิธีนี้ ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Naturalization
ในการได้ถิ่นที่อยู่ถาวรนั้น แต่ละประเทศจะมีขั้นตอนที่คล้ายๆกันคือ เราอยู่ในประเทศนั้นๆแบบถูกต้องตามกฎหมาย เช่น จากการทำงาน การแต่งงานกับคนประเทศนั้น การไปทำธุรกิจ หรือการไปเกษียรที่ประเทศนั้นๆ
ระยะเวลาที่ต้องอยู่และข้อกำหนดในการขอถิ่นที่อยู่ถาวรนั้นจะแตกต่างกันไปแต่ละประเทศ

เช่น ถ้าเราจะขอถิ่นที่อยู่ถาวรในยุโรปจากประเทศเยอรมัน เราต้องอยู่ในเยอรมันก่อนเป็นระยะเวลา 5 ปี มีรายรับเพียงพอที่สำหรับการใช้ชีวิตและดูแลครอบครัว มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง สามารถพูดภาษาเยอรมันได้ และต้องจ่ายให้ระบบประกันสังคมก่อนเป็นระยะเวลา 60 เดือน ถึงจะสามารถยื่นเรื่องขอถิ่นที่ถาวรอยู่ได้ (Permanent Residence Permit)
หลังจากนั้นแล้ว เราสามารถยื่นขอสัญชาติประเทศนั้นๆได้ โดยเราอาจจะต้องทำการทดสอบความรู้ด้านภาษาและวัฒนธรรม ก่อนที่จะได้รับสัญชาติ
**แต่ละประเทศมีขั้นตอนที่แตกต่างกันและขึ้นอยู่กับวิซ่าที่เราถืออยู่ด้วย ในบางกรณี เราสามารถยื่นขอสัญชาติได้เลยโดยไม่ต้องขอถิ่นที่อยู่ถาวรก่อน
การได้รับสัญชาติโดยวิธีนี้นั้น จะใช้ระยะเวลาโดยรวมประมาณ 8-10 ปี
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไปอยู่ในประเทศนั้นๆโดยถูกต้องตามกฏหมายมาเป็นระยะเวลานาน ไม่มีคดีติดตัว และตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่กลับมาใช้ชีวิตที่ประเทศไทยอีก เพราะมีขั้นตอนที่ซับซ้อน และก่อนที่เราจะได้รับสัญชาตินั้น หลายประเทศบังคับให้เรายกเลิกสัญชาติประเทศไทยก่อน ถึงจะให้สัญชาติใหม่ให้แก่เรา
ได้สัญชาติโดยการลงทุน
ประเทศส่วนมากในยุโรปจะมีวีซ่าแบบพิเศษ ที่มักจะเรียกกันว่าโกลเด้นวีซ่า (Golden Visa) ในบางประเทศจะเรียนกันว่าวีซ่าการลงทุน (Investment Visa) หรือ โปรแกรมถิ่นที่อยู่จากการลงทุน (Residence by Investment Program) หรือ โปรแกรมการได้สัญชาติจากการลงทุน (Citizenship by Investment Program)
วีซ่ารูปแบบนี้ เป็นวีซ่าแบบพิเศษที่ได้มาจากการลงทุนในส่วนต่างๆตามที่แต่ละประเทศต้องการในขณะนั้น และเราสามารถขอสัญชาติได้เลยหรือสามารถนำมาขอสัญชาติได้ในภายหลังขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละประเทศ
ข้อดีหลักๆของการขอสัญชาติโดยวิธีนี้คือ
- ขั้นตอนการขอที่ยุ่งยากน้อยกว่าวิธีอื่น ยกเว้นว่าเราจะมีบรรพบุรุษที่สื้อเชื้อสายมาจากประเทศนั้นๆ
- คนทุกคนสามารถสมัครได้ ถ้าสามารถลงทุนตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศได้
- เราไม่จำเป็นต้องอยู่ประเทศนั้นเป็นระยะเวลานานต่อปี
- เราอาจจะยังคงสามารถถือสัญชาติไทยได้
ข้อกำหนด
ในการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนนั้น จะมีข้อกำหนดหลักๆอยู่ 3 อย่าง คือ
- ต้องลงทุนให้ตรงกับข้อกำหนดที่แต่ละประเทศวางไว้
- ต้องอยู่ในประเทศนั้นๆเป็นระยะเวลาหนึ่ง
- ต้องไม่มีคดีติดตัว
โดยในข้อกำหนดแต่ละข้อนั้น จะมีรายละเอียดยิบย่อยที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ หากเราสนใจที่จะสมัครโปรแกรมนี้ในประเทศไหน เราจะต้องไปศึกษาและดูรายละเอียดเพิ่มเติมให้ดี ก่อนที่จะทำการสมัคร
การลงทุน
ข้อกำหนดหลักของการได้วีซ่าประเภทนี้คือเราจะต้องไปทำการลงทุนในรูปแบบและจำนวนต่างๆ ตามที่แต่ละประเทศต้องการ
ซึ่งสามารถเป็นได้ในรูปแบบของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ตราสารหนี้ การสร้างงาน หรือลงทุนในหน่วยงานต่างๆตามที่แต่ละประเทศต้องการ
เช่น หากเราอยากจะสมัครโกลเด้นวีซ่าในประเทศโปรตุเกส เราจะต้องลงทุนอย่างน้อยเป็นจำนวน 500,000 ยูโร ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และต้องถือการลงทุนไว้อย่างน้อย 5 ปีตลอดระยะเวลาที่เราถือวีซ่าประเทศนี้อยู่
แต่ถ้าเราสมัครโปรแกรมประเภทเดียวกันในประเทศมอลตา เราจะต้องลงทุนเป็นจำนวนเงิน 600,000 ยูโร ในตลาดอสังหาริมทรัพย์

ในการที่จะสมัครวีซ่าหรือการรับสัญชาติผ่านการลงทุนนั้น เราไม่สามารถกู้เงินเพื่อมาลงทุนได้
ก่อนที่เราจะลงทุนนั้น เราจะต้องศึกษาให้ดีว่า ข้อกำหนดของการลงทุนคืออะไร เช่น ถ้าเราเลือกจะลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมักจะเป็นวิธีที่นิยมที่สุดสำหรับการถือวีซ่าประเภทนี้ เราจะต้องลงทุนในรูปแบบและพื้นที่เฉพาะที่รัฐบาลประเทศนั้นๆกำหนดไว้เท่านั้น
หากเราลงทุนในพื้นที่อื่น เราก็จะไม่ได้วีซ่าประเภทการลงทุน แม้ว่าจำนวนที่เราลงทุนจะมากกว่าจำนวนที่รัฐบาลประเทศนั้นๆกำหนดไว้ก็ตาม
นอกเหนือจากการลงทุนแล้ว เราอาจจะต้องบริจาคเงินจำนวนหนึ่งให้ประเทศนั้นๆอีกด้วย
จำนวนวันขั้นต่ำที่ต้องอยู่ในประเทศนั้นๆ
หลังจากที่เราได้รับวีซ่าจากการลงทุนเรียบร้อยแล้ว ในแต่ละประเทศจะมีจำนวนวันขั้นต่ำที่เราจะต้องไปอยู่ เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์วีซ่า
แต่จำนวนขั้นต่ำที่เราจะต้องอยู่ในประเทศนั้น จะไม่ได้มากเหมือนวีซ่าประเภทอื่น
เช่น ถ้าเราสมัครโกลเด้นวีซ่าของประเทศโปรตุเกส เราจะต้องอยู่ในประเทศโปรตุเกสเพียงแค่ 14 วันต่อปีเท่านั้น
ไม่มีคดีติดตัว
ก่อนที่เราจะสามารถสมัครโปรแกรมวีซ่าหรือการรับสัญชาติผ่านการลงทุนนั้น แต่ละประเทศจะทำการตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวของเราก่อน (Due Diligence) เพื่อที่จะแน่ในว่าเราไม่มีประวัติอาชญากรรม และเป็นผู้ที่มีที่มีความสามารถในการลงทุนในประเทศนั้นได้จริง
สิ่งที่ต้องคำนึง
เรามาดูดีกว่าว่ามีสิ่งใดบ้างที่เราต้องนำมาพิจารณาก่อนที่จะสมัครโปรแกรมวีซ่าหรือสัญชาติผ่านการลงทุน
ความเสี่ยงในการลงทุน
การลงทุนคือข้อกำหนดหลักในการที่จะได้รับสัญชาติประเภทนี้ ซึ่งต้องการเงินลงทุนเป็นจำนวนมากและต้องถือไว้เป็นระยะหลายปี
ในขั้นต่ำนั้น เราจะต้องลงทุนเป็นจำนวนหลายแสนยูโร หรือบางประเทศอย่างเช่น ประเทศไซปรัส ที่เราจะต้องลงทุนเป็นจำนวนเงิน 2,000,000 ยูโรเลยทีเดียว
ฉะนั้นแล้ว ก่อนที่เราจะทำการลงทุน เราจะต้องมั่นใจว่าเป็นการลงทุนที่ดี และมีความสามารถในการให้ผลกำไรในอนาคต
ระบบมีความชัดเจนแค่ไหน
นอกเหนือจากเรื่องของการลงทุนแล้ว เราต้องพิจารณาถึงขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมประเทศนั้นๆว่ามีประสิทธิภาพเพียงไร และมีความชัดเจนแค่ไหน
ในบางประเทศ แม้โปรแกรมจะดูน่าสนใจ แต่ขั้นตอนสมัครมีความยุ่งยากและไม่ชัดเจน ซึ่งจะทำให้การสมัครของเราล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น และบางครั้ง รัฐบาลอาจจะปฎิเสธใบสมัครของเราเลยก็เป็นได้ แม้ว่าเราจะทำการไปเรียบร้อยก็ตามแต่
จำนวนเงินทั้งหมดที่ต้องใช้
ในการสมัครโปรแกรมสัญชาติหรือวีซ่าผ่านการลงทุนนั้น นอกจากในส่วนของการลงทุนแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆที่เราต้องจ่ายเพิ่มเติม เช่น
- เงินบริจาค
- ค่าเอกสารต่างๆ
- ค่าธรรมเนียมโปรแกรม
- ค่าธรรมเนียมทนาย (ถ้ามี)
ซึ่งจำนวนค่าใช้ต่ายในส่วนนี้ จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่เราสมัคร
ระยะเวลาดำเนินการทั้งหมด
ในส่วนของระยะเวลาดำเนินการ เราสามารถแบ่งได้เป็นสองส่วนหลักๆ คือ
- ระยะเวลาที่รัฐบาลจะอนุมัติใบสมัครของเรา
- ระยะเวลาที่เราจะต้องอยู่ในประเทศนั้น ก่อนที่จะได้รับสัญชาติ
ในแต่ละประเทศจะมีระยะเวลาดำเนินการทั้งหมดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
โดยระยะเวลาที่รัฐบาลจะอนุมัติใบสมัครนั้น บางประเทศ เช่น สเปน จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 6-8 เดือนหลังจากที่ยื่นใบสมัคร
บางประเทศจะใช้ระยะเวลานานกว่านั้น เช่น ประเทศออสเตรีย จะใช้เวลาประมาณ 24-36 เดือนเลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้ว แต่ละประเทศก็จะมีระยะเวลาที่แตกต่างกันในการที่เราจะต้องถือวีซ่าการลงทุนก่อนที่จะสามารถสมัครสัญชาติได้ บางประเทศอย่างโปรตุเกส เราจะต้องถือไว้ 5 ปี ก่อนที่จะสมัครสัญชาติได้ แต่ในส่วนของประเทศสเปน เราจะต้องถือวีซ่าลงทุนไว้ก่อนเป็นระยะเวลา 10 ปี
ผลประโยชน์ทางภาษี
หากใครคิดที่จะทำธุรกิจในประเทศนั้นๆ จะต้องศึกษาเรื่องผลประโยชน์ทางภาษีให้ดีก่อน โดยประเทศต่างๆในกลุ่มสมาชิกยุโรปมีอัตราภาษีที่แตกต่างกัน รวมถึงข้อยกเว้นในเรื่องภาษี
บางประเทศอาจจะมีสิทธิภาษีพิเศษ เช่น ยกเว้นภาษีสำหรับเงินได้จากต่างประเทศ สำหรับบุคคลที่ถือวีซ่าลงทุนโดยเฉพาะ
รักษาสัญชาติไทยได้ไหม?
โดยส่วนมากแล้ว ประเทศในกลุ่มยุโรปส่วนมากจะมีข้อยกเว้นในการถือสองสัญชาติให้กับบุคคลที่ได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนให้เป็นกรณีพิเศษ
แต่ในบางประเทศ เช่น ประเทศเยอรมัน หากเราต้องการที่จะได้รับสัญชาติเยอรมันแม้จะเป็นผ่านวิธีการลงทุน เราจะต้องยกเลิกสัญชาติไทย
ด้วยสาเหตุนี้ ทำให้ผู้คนส่วนมากไม่ให้ความสนใจในวีซ่าการลงทุนของประเทศเยอรมัน แม้ว่าจะเป็นประเทศที่ดีและต้องการจำนวนเงินลงทุนที่น้อยกว่าประเทศอื่นในยุโรปก็ตาม
ต้องเรียนภาษาไหม?
ในบางประเทศ เราจะต้องผ่านสอบวัดระดับภาษาก่อนที่เราจะสามารถสมัครสัญชาติได้ เช่น หากเราอยากจะได้สัญชาติโปรตุเกส เราต้องผ่านระดับ A2 เสียก่อน เพื่อพิสูจน์ว่าเราสามารถสื่อสารภาษาโปรตุเกสได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน
โดยส่วนมากแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเรียนภาษาใหม่สำหรับประเทศที่ให้สัญชาติเราโดยตรงหลังจากสมัครผ่านโปรแกรมการลงทุน
หากประเทศไหนที่เราจะต้องอยู่ในประเทศนั้นสักระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะได้รับสัญชาติ เราต้องสามารถพูดภาษาของประเทศนั้นได้
โปรแกรมแนะนำ
ประเทศต่างๆในกลุ่มประเทศยุโรปนั้นก็มีกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมสัญชาติผ่านการลงที่แตกต่างกัน รวมถึง ขั้นตอน ระยะเวลา และค่าใช้จ่าย
และไม่ใช่ทุกประเทศ ที่มีโปรแกรมนี้
เรามาดูกันดีกว่าว่า มีประเทศไหนในกลุ่มประเทศยุโรป ที่เราสามารถได้สัญชาติผ่านโปรแกรมการลงทุนได้ง่าย โดยพิจารณาจากความชัดเจนของโปรแกรม ระยะเวลาที่ได้สัญชาติ ขั้นตอนการทำงานของรัฐบาล จำนวนเงินที่ใช้ และความเสี่ยงในการลงทุน
โปรตุเกส
ประเทศโปรตุเกส มักจะเป็นประเทศแรกๆที่คนนึกถึงในการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนในกลุ่มประเทศยุโรป เนื่องด้วยเป็นประเทศที่มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก มีขั้นตอนการสมัครที่ไม่วุ่นวาย มีความเสี่ยงในการลงทุนน้อย มีค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่ำกว่าประเทศอื่น รวมถึงใช้ระยะเวลาน้อยในการได้รับสัญชาติ
อีกทั้งประเทศโปรตุเกสยังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในด้านคุณภาพชีวิต มีระบบสุขภาพที่ดี และหนังสือเดินทางยังสามารถใช้เดินทางไปได้มากกว่า 180 ประเทศทั่วโลกโดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งถือได้ว่าหนังสือเดินทางของประเทศโปรตุเกสนั้นดีเป็นอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว

อีกหนึ่งข้อดีของโปรแกรมการลงทุนของประเทศโปรตุเกสคือ เราจำเป็นต้องอยู่ในประเทศนี้เป็นเวลาเพียงแค่ 14 วันต่อปี เพื่อรักษาวีซ่า
โปรแกรมการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนของประเทศโปรตุเกสนั้น มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า The Portugal Golden Residence Permit หรือ GRP
บางคนอาจจะเรียกโปรแกรมนี้ว่า ARI ซึ่งย่อมาจากคำว่า A Residence Permit for an Investment Activity
หลายๆคนมักจะเรียกชื่อโปรแกรมนี้ว่า โกลเด้น วีซ่า (Golden Visa)
วิธีการลงทุนที่นิยมที่สุดในการสมัครโปรแกรม GRP คือการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจำนวนการลงทุนขั้นต่ำจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับที่ตั้งและประเภทอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่จำนวน 350,000 ยูโร จนถึง 1,000,000 ยูโร
นอกจากการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์แล้ว เรายังสามารถสมัครโปรแกรม GRP ผ่านการลงทุนประเภทอื่นๆ เช่น การสร้างงานอย่างน้อย 10 งานในประเทศโปรตุเกส หรือ การลงทุนในหน่วยงานวิจัยต่างๆ
ระยะเวลาสมัครทั้งหมดของโปรแกรม GRP ในประเทศโปรตุเกส ตั้งแต่การสรรหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน การเตรียมเอกสาร จนกระทั่งได้รับวีซ่า จะอยู่ที่ประมาณ 6-8 เดือน
หลังจากถือวีซ่าจากโปรแกรม GRP มาได้ 5 ปีแล้ว เราสามารถยื่นขอสัญชาติได้เลย ซึ่งข้อกำหนดหลักๆของการขอสัญชาติประเทศโปรตุเกสมีดังนี้
- เราต้องมีอายุมากกว่า 18 ปี
- เราต้องสอบผ่านวัดระดับภาษาโปรตุเกสในระดับ A2
- เราต้องไม่มีประวัติอาชญากรรม
- เราต้องแสดงถึงความสนใจที่จะได้รับสัญชาติประเทศโปรตุเกส
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านบทความรีวิวโปรแกรมการลงทุนประเทศโปรตุเกสของเราได้
สเปน
โปรแกรมการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนของประเทศสเปนจะมีลักษณะคล้ายๆกับประเทศโปรตุเกส คือเราต้องลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือสร้างงานในประเทศก่อนที่จะสามารถขอวีซ่าแบบลงทุนได้

จำนวนในการลงทุน ระยะเวลาดำเนินการรวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการได้รับสัญชาติสเปนนั้นก็ไม่แตกต่างจากประเทศโปรตุเกสมาก
ในแต่ประเทศสเปนนั้น เราจะต้องถือวีซ่าตัวนี้ก่อนเป็นระยะเวลาทั้งหมด 10 ปี ก่อนที่จะสมัครสัญชาติได้
มอลต้า
แม้ว่าประเทศมอลต้าอาจจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสำหรับคนไทย แต่สำหรับชาวต่างชาตินั้นที่อยากจะได้สัญชาติในกลุ่มประเทศยุโรป มักจะคิดถึงประเทศนี้เป็นอันดับแรก เนื่องด้วยโปรแกรมสัญชาติผ่านของลงทุนของประเทศมอลต้านั้น มีระยะเวลาดำเนินการที่เร็ว และต้องการจำนวนการลงทุนที่ไม่มาก

หลังจากที่เราได้รับวีซ่าชั่วคราวจากการลงทุนแล้วนั้น เราจำเป็นต้องถือวีซ่าตัวนี้เพียงแค่ 1 ปี และสามารถทำการสมัครสัญชาติมอลต้าได้เลย โดยที่ไม่ต้องเรียนภาษาพื้นเมือง
อีกทั้งในช่วง 1 ปีที่เราถือวีซ่านั้น เราจำเป็นที่จะต้องอยู่ในประเทศนี้เพียงแค่ 14 วันเท่านั้น
ในการสมัครโปรแกรมสัญชาติของประเทศมอลต้า มีข้อกำหนดการลงทุนหลักๆอยู่ 3 อย่าง คือ
- เราจะต้องลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ จำนวนไม่น้อยกว่า 600,000 ยูโร และถือไว้ 5 ปี หรือ เช่าอสังหาริมทรัพย์เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยค่าเช่าแต่ละปีต้องไม่ต่ำกว่าปีละ 16,000 ยูโร
- ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์หรือตราสารหนี้เป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 150,000 ยูโร และถือไว้อย่างน้อยเป็นระยะเวลา 5 ปี
- ทำการบริจาคจำนวน 10,000 ยูโรให้กับประเทศมอลต้าในหน่วยงานตามที่รัฐบาลกำหนดไว้
หนังสือเดินทางของประเทศมอลต้านั้น ดีเป็นอันดับที่ 11 ของโลก โดยสามารถเดินทางไปได้มากกว่า 180 ประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่า
มอนเตรเนโกร
แม้ว่าในขณะนี้ประเทศมอนเตรเนโกรจะยังไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศยุโรปอย่างเป็นทางการ แต่มีความเป็นไปได้สูงว่า ประเทศเล็กๆในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ จะเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศยุโรปอย่างเป็นทางการในปี 2568
และโปรแกรมการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนของประเทศนี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะมีเงื่อนไขที่ไม่ซับซ้อน และสามารถได้รับสัญชาติอย่างเพียงรวดเร็วภายในระยะเวลา 6-8 เดือนเท่านั้นหลังจากสมัครเข้าร่วมโปรแกรม

ในการที่จะได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนของประเทศมอนเตรเนโกร มีเงื่อนไขหลักๆอยู่ 3 อย่าง คือ
- จะต้องลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐบาลมอนเตรเนโกรกำหนดไว้เป็นจำนวนอย่างน้อง 450,000 ยูโร
- จะต้องบริจาคให้กับประเทศมอนเตรเนโกเพื่อนำไปพัฒนาประเทศ เป็นจำนวน 100,000 ยูโร
- จะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป และไม่มีประวัติอาชญากรรม
เราสามารถสมัครสัญชาติให้กับคนในครอบครัวเราได้ด้วย โดยไม่ต้องทำการลงทุนเพิ่ม แต่จะต้องเสียค่าสมัครเพิ่มเติมให้กับรัฐบาลมอนเตรเนโกรเป็นจำนวน 7,000 ยูโร ถึง 50,000 ยูโร ต่อคน ซึ่งจำนวนเงินจะขึ้นอยู่กับลักษณะความสัมพันธ์และจำนวนคนในครอบครัวของเรา
ในการสมัครเข้าร่วมโปรแกรมสัญชาติมอนเตรเนโกรผ่านการลงทุนนั้น เราไม่สามารถสมัครได้ด้วยตนเอง แต่ต้องสมัครผ่านตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากประเทศมอนเตรเนโกรเท่านั้น
หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านบทความรีวิวโปรแกรมการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนประเทศมอนเตรเนโกร ของเราได้
กลุ่มประเทศอื่นๆ
โปรแกรมการได้รับสัญชาติผ่านการลงทุนนั้นไม่ได้มีแค่ในกลุ่มประเทศยุโรป
อีกหนึ่งกลุ่มประเทศที่เป็นที่นิยมสำหรับการถือสัญชาติที่สองคือกลุ่มประเทศแคริบเบียน โดยเฉพาะประเทศเซนต์คิตส์และเนวิส เพราะมีสิทธิประโยชน์ที่ไม่แตกต่างจากสัญชาติในกลุ่มประเทศยุโรป แต่มีระยะเวลาการดำเนินการที่ง่ายกว่า สั้นกว่า และจำนวนเงินลงทุนที่น้อยกว่า
ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางประเทศเซนต์คิตส์และเนวิสนั้น สามารถเดินทางไปได้มากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก โดยที่ไม่ต้องขอวีซ่า รวมถึงประเทศในกลุ่มเชงเก้น (Schengen)
นอกจากนั้นแล้ว เมื่อเราได้สัญชาติประเทศเซนต์คิตส์และเนวิส เราสามารถได้สิทธิทางภาษีแบบเดียวกันกับพลเมืองประเทศนี้อีกด้วย
จะถือสัญชาติไหนดี?
ก่อนที่เราจะตัดสินใจสมัครสัญชาติใหม่ เราต้องแน่ใจให้ดีว่ามันเหมาะกับเราที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่ซับซ้อน มีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก รวมถึงขั้นตอนการสมัคร และสิทธิประโยชน์ของประเทศต่างๆสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ฉะนั้น หากเรายังไม่มั่นใจว่าจะเลือกประเทศไหนดี หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เราสามารถขอคำปรึกษาและใช้บริการจากบริษัทด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการได้รับสัญชาติของแต่ละประเทศได้
โดยบริษัทเหล่านี้ สามารถช่วยเราสมัครโปรแกรมการขอสัญชาติผ่านการลงทุนได้ รวมถึงการเตรียมเอกสาร การสรรหาอสังหาริมทรัพย์ และการดำเนินการต่างๆ
นอกจากนั้นแล้ว ในการสมัครโปรแกรมขอสัญชาติผ่านการลงทุนนั้น ในบางประเทศเราต้องสมัครผ่านตัวแทนที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลประเทศนั้นเท่านั้น
หากท่านสนใจในโปรแกรมขอสัญชาติผ่านการลงทุน สามารถกรอกแบบฟอร์มด้านล่างได้ เพื่อติดต่อกับบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องโปรแกรมถิ่นที่อยู่อาศัยและเป็นตัวแทนที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลหลายประเทศทั่วโลก