วิธีใช้ตู้เอทีเอ็มในโครเอเชียแบบเข้าใจง่ายพร้อมประสบการณ์จริง

The Complete Guide to ATMs in Croatia

วิธีการกดเงินจากตู้ ATM ในโครเอเชีย พร้อมทริคเล็กๆเช่น เลือกตู้แบบไหนดี ค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ บัตรอะไรใช้ได้บ้าง และวิธีหลีกเลี่ยงเรทโหดจาก DCC พร้อมเคล็ดลับใช้งานจริงจากประสบการณ์ตรง

ใครที่เคยเดินทางไปต่างประเทศคงรู้ดีว่า “ตู้เอทีเอ็มไม่ได้เหมือนกันทุกประเทศ” โดยเฉพาะในโครเอเชีย ที่แม้จะเปลี่ยนมาใช้เงินยูโรแล้ว แต่ก็ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับการกดเงินที่ควรรู้ไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นอาจต้องเสียค่าธรรมเนียมแพงหูฉีกสไตล์ยุโรปแบบไม่รู้ตัว

ฉันเองเคยมีประสบการณ์ที่สนามบินซาเกร็บ ตอนนั้นยังไม่มีบัตรธนาคารท้องถิ่น เลยใช้บัตร Travel Card กดเงินยูโรติดกระเป๋าไว้ ตู้แรกที่เห็นคือ Euronet สีเหลืองสดใส พร้อมข้อความล่อตาล่อใจว่า “No commission!” ฟังดูดีใช่ไหมคะ? แต่พอกดจริง กลับกลายเป็นการถอนเงินที่แพงที่สุดในชีวิตการเดินทาง เรียกได้ว่าเสียค่าโง่แบบเต็ม ๆ 

หลังจากนั้นฉันไม่กล้ากดเงินสุ่มสี่สุ่มห้าอีกเลย จึงกลับมานั่งศึกษาวิธีใช้ตู้เอทีเอ็มในโครเอเชียอย่างละเอียด และรวบรวมเคล็ดลับดี ๆ ที่อยากแบ่งปันให้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่ถือบัตรจากประเทศไทยหรือประเทศอื่น ๆ ไว้ในบทความนี้

บทความนี้ใช้เวลาอ่านประมาณ 15 นาที ยังไม่มีเวลาอ่านตอนนี้เหรอ? ไม่เป็นไรเลย คุณสามารถส่งเวอร์ชันบทความแบบไม่มีโฆษณาไปที่อีเมลของคุณ แล้วค่อยอ่านทีหลังก็ได้!

คำชี้แจงเรื่องความโปร่งใส: บทความนี้อาจมีลิงก์ไปยังผลิตภัณฑ์หรือบริการจากพันธมิตรของเรา หากคุณคลิกลิงก์เหล่านั้น เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อย ซึ่งอาจมีผลต่อรูปแบบการจัดวางเนื้อหาบางส่วน อย่างไรก็ตาม โปรดวางใจว่า เราแนะนำเฉพาะสิ่งที่เราเชื่อว่ามีประโยชน์และเหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณจริง ๆ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน นโยบายโฆษณา ของเรา.

Contents

  1. ประเด็นสำคัญ
  2. กดเงินในโครเอเชียใช้บัตรอะไรได้บ้าง?
  3. กดเงินในโครเอเชียใช้ตู้แบบไหนดี? ธนาคารท้องถิ่นหรือ Euronet?
  4. ขั้นตอนการกดเงินในโครเอเชีย (พร้อมเทคนิคไม่โดนฟันเรท)
  5. DCC (Dynamic Currency Conversion) คืออะไร? ทำไมต้องรู้ก่อนกดเงินจากตู้ ATM ในต่างประเทศ
  6. ค่าธรรมเนียมการกดเงินจากตู้ ATM ในโครเอเชียที่ควรรู้
  7. ข้อจำกัดในการถอนเงินของตู้เอทีเอ็มในโครเอเชีย
  8. หาตู้ ATM ได้ที่ไหนบ้างในโครเอเชีย?
  9. หากตู้ ATM ในโครเอเชียกลืนบัตรต้องทำอย่างไร?
  10. หากไม่มีบัตร ATM จะกดเงินจากตู้ในโครเอเชียได้อย่างไร?
  11. ในโครเอเชียจำเป็นต้องพกเงินสดหรือไม่?
  12. เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการใช้ตู้เอทีเอ็มในโครเอเชีย

ประเด็นสำคัญ

  • ตู้เอทีเอ็มส่วนใหญ่ในโครเอเชียรองรับบัตรเครือข่ายหลักทั้ง Visa, Mastercard, American Express, Discover, UnionPay, Maestro และ Cirrus รวมถึงบัตร Travel Card จากไทย เช่น YouTrip และ SCB Planet ที่ช่วยลดค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินและให้เรทดี
  • ตู้ธนาคารท้องถิ่น (เช่น ZABA, PBZ, Erste, RBA) ปลอดภัยและค่าธรรมเนียมชัดเจน ขณะที่ตู้เอกชนอย่าง Euronet อาจโฆษณา “No fee” แต่แอบเรียกเก็บจากอัตราแลกเปลี่ยน (DCC) ทำให้เสียเงินมาก
  • ขั้นตอนกดเงินและหลีกเลี่ยง DCC เสียบบัตร, เลือกภาษาอังกฤษ, กด “Cash Withdrawal”, ใส่จำนวนเงินยูโร, และตอบ “No” หรือเลือก “Without Conversion / Local Currency (EUR)” เมื่อตู้ถามว่าจะคิดเงินเป็นสกุลบ้านเกิด (THB) เพื่อหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมสูง
  • ข้อจำกัดและค่าธรรมเนียม ATM ตู้ส่วนใหญ่ถอนเงินสูงสุดต่อรายการ 700-800 ยูโร วงเงินต่อวันขึ้นกับธนาคารและประเภทบัตร ค่ากดเงินจากธนาคารท้องถิ่นประมาณ 4.50-5.50 ยูโร ขณะที่บัตรทั่วไปอาจเสีย FX Fee 2-2.5% และค่ากด ATM ประมาณ 100 บาทต่อครั้ง
  • พกเงินสดเล็กน้อยเพื่อกรณีร้านเล็ก ตลาดสด หรือแท็กซี่บางคัน หลีกเลี่ยงตู้ในแหล่งนักท่องเที่ยว, เลือกบัตรที่ไม่มี Foreign Transaction Fee, สังเกตตู้ก่อนกด, ระวังคนรอบข้าง, และตรวจสอบวงเงินถอนล่วงหน้า รวมถึงเลือกถอนหรือจ่ายเป็นยูโร (EUR) 

กดเงินในโครเอเชียใช้บัตรอะไรได้บ้าง?

ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนในโครเอเชีย ตู้เอทีเอ็มส่วนใหญ่รองรับบัตรเครือข่ายหลัก ๆ ทั่วโลกเกือบทั้งหมด จึงไม่ต้องกังวลเลยทั้ง Visa, Mastercard, American Express, Discover, UnionPay, Maestro, และ Cirrus ก็ใช้งานได้สบาย เพราะบัตรเครดิตหรือเดบิตจากเครือข่ายเหล่านี้สามารถใช้ได้สะดวก ทั้งการกดเงินสดและการรูดจ่ายที่ร้านค้าในโครเอเชีย

แต่ถ้าคุณเป็นคนไทยเหมือนกับฉัน เรามีทางเลือกเป็นบัตร Travel Card มากมาย แถมยังใช้งานได้แทบทุกตู้และช่วยลดค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน (FX Fee) ได้มาก โดยเฉพาะสองบัตรยอดนิยมอย่าง YouTrip (กสิกรไทย) และ SCB Planet (ไทยพาณิชย์) ซึ่งเป็นสองธนาคารที่ฉันใช้ตอนอยู่ที่นู่น ทั้งกดเงินและแตะจ่ายได้ ไม่มีค่าธรรมเนียม และได้เรทแลกเงินที่ดีกว่าบัตรประเภทอื่น ๆ ด้วย

SCB ATM Visa card
ATM ในโครเอเียสามารถใข้บัตรพวก Visa, Mastercard, American Express, Discover, UnionPay, Maestro, และ Cirrus เพื่อกดเงินสดออกมาได้เลย

นอกจากนี้ยังมีบัตรอื่น ๆ ที่สามารถใช้ในต่างประเทศได้ เช่น 

  • Journey Card (ธนาคารกสิกรไทย)
  • Krungthai Travel Visa Platinum Card (ธนาคารกรุงไทย)
  • TTB All Free (ธนาคารทหารไทยธนชาต)
  • Krungsri Boarding Card (ธนาคารกรุงศรี)

เคล็ดลับก่อนเดินทางที่ห้ามละเลย คือ อย่าลืมเปิด “การใช้งานต่างประเทศ” ล่วงหน้าเสมอ เพราะนอกจากเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกแล้ว ยังเพื่อป้องกันการระงับบัตรอัตโนมัติขณะทำธุรกรรมในต่างประเทศ

ครั้งหนึ่งฉันเคยใช้บัตร KTC ตัดเงินผ่านเว็บเช่ารถชั่วคราว แต่ธนาคารเกิดความสงสัย จึงระงับและอายัติบัตรอัตโนมัติ โชคดีที่ตอนนั้นฉันมีซิมไทยติดเครื่องไว้ จึงสามารถเปิดใช้งานซิมทันทีเพื่อรับสายจากธนาคาร เมื่อรับสายและอธิบายสถานการณ์ก็ทราบว่า เพราะเราไม่ได้แจ้งการใช้งานต่างประเทศ และขณะที่เราผูกบัตรมีมิจฉาชีพพยายามแฮ็กตัดเงินจาก 3-4 เว็บไซต์แปลก จึงต้องอายัติบัตรไว้ก่อน ประสบการณ์นี้ทำให้ฉันย้ำกับตัวเองเสมอว่า ควรแจ้งธนาคารก่อนใช้จ่ายในต่างประเทศ และพกบัตรสำรองเป็นเรื่องจำเป็นมาก

กดเงินในโครเอเชียใช้ตู้แบบไหนดี? ธนาคารท้องถิ่นหรือ Euronet?

เพื่อน ๆ ที่เคยมาเที่ยวยุโรปหรือโครเอเชียคงจะพอสังเกตเห็นว่า ตู้เอทีเอ็มที่นี่มันมีหลายแบบมากจนชวนให้สับสน ดังนั้น ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าเราต้องระวังให้ดี เพราะถ้ากดผิดตู้ ชีวิตเปลี่ยน ค่าเงินหายไปแบบไม่รู้ตัวเหมือนที่ฉันเคยเจอมาแล้ว! หลัก ๆ แล้วตู้เอทีเอ็มในโครเอเชียจะแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ที่เราต้องจำให้ขึ้นใจ ดังนี้

1. ตู้ของธนาคารท้องถิ่น

เซฟโซนที่เราควรเลือกใช้ก่อนเสมอ! ตู้เหล่านี้จะเป็นของสถาบันการเงินใหญ่ ๆ ในประเทศ เช่น Zagrebačka Banka (ZABA), PBZ, Erste, หรือ RBA ข้อดีของตู้พวกนี้คือ ปลอดภัยกว่ามาก ค่าธรรมเนียมจะชัดเจน (ถ้ามี) และที่สำคัญคือ มักจะไม่มีการหลอกให้เราใช้เรท DCC (Dynamic Currency Conversion) หรือการบังคับให้เราคิดเงินเป็น “บาทไทย” ในอัตราที่แพงหูฉี่ 

Zagrebačka Banka (ZABA)
Zagrebačka Banka เป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดที่นี่

2. ตู้เอกชน

พวกนี้จะเห็นบ่อยมากกกก โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวฮิต ๆ อย่างเมือง Dubrovnik หรือ Split ตู้จะสีสันฉูดฉาดหน่อย เช่น Euronet, Auro Domus, หรือ Monestiq และดึงดูดด้วยป้ายเด่นหราว่า “No fee” หรือ “No commission!” ฟังดูดีแต่ความจริงแล้วมันคือกับดัก เพราะถึงแม้จะบอกว่าไม่มีค่าธรรมเนียม แต่เขาก็จะไปฟันเราหนัก ๆ ที่ “อัตราแลกเปลี่ยน” แทน ซึ่งเรทที่เขาเสนอมานั้นไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย

ทำความรู้จักธนาคารท้องถิ่นในโครเอเชียและขั้นตอนการเปิดบัญชีธนาคาร

ขั้นตอนการกดเงินในโครเอเชีย (พร้อมเทคนิคไม่โดนฟันเรท)

  1. เสียบบัตร แล้วเลือกภาษาอังกฤษ (English)
  2. ใส่รหัส PIN อย่าลืมบังมือทุกครั้ง
  3. เลือก “Cash Withdrawal”
  4. กรอกจำนวนเงินยูโร (€) ที่ต้องการ
  5. ขั้นตอนสำคัญที่สุด เมื่อหน้าจอถามว่า “Would you like to be charged in your home currency (THB)?” ให้ตอบ “No”, หรือเลือก “Without Conversion / Local Currency (EUR)” เพราะถ้าคุณกด “Yes” ระบบจะใช้เรทของผู้ให้บริการ ATM ซึ่งมักจะแพงกว่าธนาคารไทยหลายบาทต่อยูโรเลยทีเดียว

DCC (Dynamic Currency Conversion) คืออะไร? ทำไมต้องรู้ก่อนกดเงินจากตู้ ATM ในต่างประเทศ

DCC ย่อมาจาก Dynamic Currency Conversion หรือบริการแปลงสกุลเงินแบบไดนามิก อธิบายง่าย ๆ คือเป็นตัวเลือกที่ตู้ ATM หรือเครื่องรูดบัตร (POS) ในต่างประเทศเสนอให้คุณเลือกว่าจะจ่ายเป็น “สกุลเงินท้องถิ่น” เช่น ยูโรในโครเอเชีย หรือจ่ายเป็น “สกุลเงินบ้านเกิด” เช่น บาทไทยทันที

การเลือกใช้ DCC ต้องระวัง เพราะอัตราแลกเปลี่ยนที่ตู้หรือร้านค้านั้นกำหนดให้มักจะแพงกว่าตลาดจริงและสูงกว่าธนาคารเจ้าของบัตร อีกทั้งการตกลงใช้ DCC ก็เท่ากับว่าคุณยอมจ่ายค่าธรรมเนียมแฝงซึ่งบางครั้งอาจสูงถึง 5-10% ของยอดเงินที่ถอนเลยทีเดียว นอกจากนี้ บางตู้ ATM อย่าง Euronet อาจโฆษณาว่า “ไม่มีค่าธรรมเนียมการถอน” แต่จริง ๆ แล้วแอบคิดกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน DCC แทน

วิธีหลีกเลี่ยง DCC คือเลือกใช้สกุลเงินท้องถิ่นเสมอ เมื่อหน้าจอที่ตู้ ATM หรือเครื่องรูดบัตรมีตัวเลือกให้เลือก ให้กดเลือก “EUR” (ยูโร) แทน “THB” (บาทไทย) หรือเลือกตัวเลือกเช่น “Withdraw without conversion” หรือ “Decline conversion” ห้ามเลือก “Accept conversion” หรือจ่ายเป็นบาทไทย การทำแบบนี้จะทำให้ธนาคารเจ้าของบัตรของคุณในไทยเป็นคนคำนวณอัตราแลกเปลี่ยนให้ ซึ่งมักจะถูกและยุติธรรมกว่ามาก

ค่าธรรมเนียมการกดเงินจากตู้ ATM ในโครเอเชียที่ควรรู้

เพื่อนของฉันเคยพลาดไปลองกดเงินที่ตู้ Euronet ที่เมือง Split ตอนนั้นเห็นป้าย “No fee” ก็รีบกดเลย แต่พอถึงขั้นตอนจ่ายเงิน ตู้กลับเสนอให้คิดเงินเป็น “บาทไทย” ทันที!  ด้วยความรีบและไม่ได้สังเกต เพื่อนก็เผลอกดตกลงไป พอเห็นสรุปยอดก็แทบร้องไห้ เพราะเรทแลกเปลี่ยนต่างจากอัตราจริงมากกว่า 5% หลังจากนั้นเพื่อนก็ไม่แตะตู้ Euronet อีกเลย เรียกได้ว่าเสียเงินไปแบบงง ๆ

ดังนั้น ถ้าเลือกกดเงินจากตู้ ATM ของธนาคารท้องถิ่นจะดีกว่ามาก เพราะมีค่าธรรมเนียมคงที่ต่อรายการอยู่ระหว่าง 4.50-5.50 ยูโร (ประมาณ 170-210 บาท) แม้ว่าบางธนาคารอย่าง Kent Bank จะไม่คิดค่าธรรมเนียมเลย แต่จะจำกัดการถอนครั้งละประมาณ 130 ยูโรและค่อนข้างหายากในพื้นที่ทั่วไป

Advertisement
Kent Bank
ฉันชอบกดเงินจากตู้ ATM ของ Kent Bank เพราะไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่ตู้ ATM จะหายากหน่อย

สำหรับบัตรจากไทย หากใช้ YouTrip หรือ SCB Planet จะไม่มีค่า FX Fee 2.5% และค่ากด ATM (ขึ้นอยู่กับช่วงโปรโมชั่น) แต่ถ้าใช้บัตรเครดิตทั่วไป อาจต้องเสียค่ากันเรท 2-2.5% และค่ากด ATM ประมาณ 100 บาทต่อครั้ง รวมถึงค่าธรรมเนียมตู้ ATM ทั่วไปที่ประมาณ 5 ยูโร (ราว 190 บาท) ดังนั้น การเลือกใช้บัตรและตู้ให้ถูกต้องจะช่วยให้ประหยัดเงินได้มาก

ส่วนค่าธรรมเนียมการแปลงอัตราแลกเปลี่ยนแน่นอนว่าฉันไม่แนะนำให้ทำเลย เราควรควรปฏิเสธการแปลงสกุลเงินไม่ว่าตู้เอทีเอ็มไหนจะถามก็ตาม โดยเฉพาะตู้ของ Euronet มักมีค่าธรรมเนียมสูงและอาจสูงถึง 12-18%

ข้อจำกัดในการถอนเงินของตู้เอทีเอ็มในโครเอเชีย

ตู้เอทีเอ็มในโครเอเชียส่วนใหญ่สามารถถอนเงินได้สูงสุดต่อรายการประมาณ 700-800 ยูโร แต่บางตู้ก็อาจกำหนดวงเงินต่ำกว่านี้ ขึ้นอยู่กับธนาคารเจ้าของตู้และประเภทของเครื่อง นอกจากนี้ วงเงินสูงสุดต่อวันจะขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรและนโยบายของธนาคารต้นทาง ดังนั้น หากต้องการถอนเงินจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องทำรายการหลายครั้ง หรือวางแผนล่วงหน้าเพื่อให้สามารถถอนเงินได้ครบตามที่เราต้องการ

หาตู้ ATM ได้ที่ไหนบ้างในโครเอเชีย?

ในโครเอเชีย คุณสามารถหาตู้ ATM ได้ในหลายสถานที่ โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่และพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก ตู้ ATM ส่วนใหญ่มักตั้งอยู่ตามถนนสายหลักและจัตุรัสกลางเมือง นอกจากนี้ ยังพบได้ภายในหรือด้านหน้าสาขาธนาคาร หรือที่อื่น ๆ เช่น

  • สนามบินหลัก เช่น สนามบินซาเกร็บ
  • สถานีรถไฟ
  • สถานีขนส่งผู้โดยสารหลัก 
  • ห้างสรรพสินค้า
  • ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่
  • ตามพื้นที่ท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลเอเดรียติก
  • บนเกาะต่างๆ ก็สามารถหาตู้ ATM ได้ไม่ยาก
Bankomat ATM in Croatia
แม้ว่าตู้ ATM ในโครเอเชียจะหาได้ง่าย แต่ไม่ใช่ว่าทุกที่จะปลอดภัย โดยส่วนตัว ฉันชอบที่จะกดเงินจากตู้ในห้างมากกว่า

หากตู้ ATM ในโครเอเชียกลืนบัตรต้องทำอย่างไร?

ฉันไม่เคยมีประสบการณ์ตรงเรื่องนี้ แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ตู้กลืนบัตรหรือบัตรหาย วิธีแก้ปัญหาขึ้นอยู่กับประเภทของตู้ หากเป็นตู้ของธนาคารให้ติดต่อพนักงานทันทีตามเบอร์ที่แปะหน้าตู้ หรือกลับมาช่วงวันทำการ 

แต่ถ้าเป็นตู้เอกชนอย่าง Euronet สามารถโทรไปที่ Call Center ตามเบอร์ที่ปรากฏบนตู้ได้ แต่บอกเลยว่าโอกาสได้บัตรคืนมักน้อยมาก ทางที่ดีที่สุดคือโทรอายัดบัตรกับธนาคารต้นทางทันที และไปเที่ยวให้สนุกจะดีกว่า

หากไม่มีบัตร ATM จะกดเงินจากตู้ในโครเอเชียได้อย่างไร?

ในโครเอเชียการแตะจ่ายแบบ Contactless ด้วยสมาร์ทโฟนก็ถือว่าสะดวก แต่หากคุณใช้บัตร Wise AppleWallet และ Revolut ก็สามารถกดเงินจากตู้เอทีเอ็มได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการถอนเงินสดในต่างประเทศ ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่มักดีกว่าธนาคารทั่วไป  แต่ก็มีค่าธรรมเนียมและข้อจำกัด ดังนี้

  • Wise ผู้ใช้สามารถถอนเงินฟรีได้ 2 ครั้งต่อเดือน โดยมียอดรวมไม่เกิน 200 ยูโร หลังจากนั้นจะคิดค่าธรรมเนียม 0.5 ยูโรต่อครั้ง และหากถอนเงินเกิน 200 ยูโรต่อเดือน จะมีค่าธรรมเนียม 1.75% สำหรับยอดที่เกิน
  • Revolut จะคิดค่าธรรมเนียม 2% ของยอดเงินที่ถอนในแต่ละครั้ง แต่ผู้ใช้ยังสามารถถอนเงินฟรีตามวงเงินรายเดือนของแพ็กเกจที่เลือก เช่น แพ็กเกจ Standard สามารถถอนได้ฟรี 5 ครั้ง หรือวงเงินรวมไม่เกิน 230 ยูโร

ในโครเอเชียจำเป็นต้องพกเงินสดหรือไม่?

โครเอเชียไม่จำเป็นต้องใช้เงินสดอย่างสิ้นเชิง แต่การพกเงินสดติดตัวไว้บ้างจะช่วยให้สะดวกและประหยัดมากขึ้น เพราะตามร้านอาหารริมชายฝั่งหรือในย่านท่องเที่ยว ร้านค้าบางแห่งมักถามคุณว่า “จ่ายเงินสดได้ไหม?” หากจ่ายเงินสด อาจได้รับส่วนลดเล็กน้อย เนื่องจากร้านค้าไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมจากการใช้บัตรเครดิต นอกจากนี้ ตามเกาะ ชายหาด ตลาดสด และร้านแผงลอย หลายแห่งก็ยังอยากให้จ่ายเป็นเงินสดมากกว่าบัตร

ส่วนในเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวหลัก ร้านอาหาร โรงแรม ซูเปอร์มาร์เก็ต พิพิธภัณฑ์ และบริษัททัวร์ใหญ่ๆ ส่วนใหญ่รองรับการชำระด้วยบัตรเครดิตหรือเดบิต โดยเฉพาะ Visa และ Mastercard ทำให้คุณสามารถใช้บัตรเป็นวิธีหลักในการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ดังนั้น วิธีที่ฉันใช้คือจ่ายด้วยบัตรในกรณีที่ร้านรับบัตร แต่ก็พกเงินสดติดตัวไว้เล็กน้อยเผื่อเหตุฉุกเฉินหรือสถานที่ที่ไม่รับบัตร

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการใช้ตู้เอทีเอ็มในโครเอเชีย

นอกเหนือจากเรื่องค่าธรรมเนียมและตู้เอทีเอ็มที่แนะนำแล้ว ยังมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมายที่ฉันจับจุดสังเกตและทดลองผิดถูกมาหลายครั้งในการเดินทางครั้งต่างๆ ดังนี้

  • ควรหลีกเลี่ยงตู้เอทีเอ็มในบริเวณที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เช่น สนามบิน โรงแรม หรือริมถนนในเมืองเก่าอย่างสปลิท เพราะตู้เหล่านี้มักคิดค่าธรรมเนียมสูงกว่าปกติ
  • แนะนำให้วางแผนถอนเงินสดในจำนวนที่เพียงพอใช้ตลอดระยะเวลาหนึ่ง เพื่อลดการเสียค่าธรรมเนียมต่อรายการหลายครั้ง แต่อย่าลืมพิจารณาความปลอดภัยในการพกเงินสดจำนวนมากด้วย
  • แม้ร้านค้าส่วนใหญ่จะรับบัตร แต่ร้านเล็ก ตลาดสด หรือรถแท็กซี่บางคันอาจรับเฉพาะเงินสด การมีเงินสดติดตัวจะช่วยให้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
  • เลือกบัตรที่ไม่มี Foreign Transaction Fees หรือบัตรที่คืนค่าธรรมเนียม ATM จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
  • ก่อนสอดบัตร ให้สังเกตบริเวณช่องเสียบบัตรว่ามีอุปกรณ์แปลกปลอมหรือไม่ และใช้มือบังขณะกดรหัส PIN เพื่อป้องกันการถูกขโมยข้อมูล
  • ระมัดระวังคนรอบตัวขณะทำรายการ หากรู้สึกไม่ปลอดภัย ให้ยกเลิกและไปหาตู้ ATM อื่น
  • หากวางแผนถอนเงินจำนวนมาก ควรติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบวงเงินการถอนต่อวันหรือรายเดือน
  • ตั้งแต่ปี 2566 โครเอเชียใช้สกุลเงินยูโร (EUR) แทนสกุลคูนา (HRK) ดังนั้นควรเลือกถอนหรือชำระเป็นยูโรเสมอ
Rattima Korwisedchai
ใช้ชีวิตในโครเอเชียตลอดปี 2024 และได้สัมผัสวิถีชีวิตประจำวันจริงๆ ที่เหนือกว่าสิ่งที่นักท่องเที่ยวเห็น ปัจจุบันเขียนบทความให้เว็บไซต์ต่างประเทศเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐาน ไลฟ์สไตล์ และการทำงานแบบดิจิทัล
อ่านในภาษาอื่น
บทความนี้มีให้บริการในภาษา: